I. พื้นที่ปลูกและผลผลิต
ประเทศเอธิโอเปียมีพื้นที่กว้างใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ปลูกงา พื้นที่ปลูกโดยเฉพาะคิดเป็นประมาณ 40% ของพื้นที่ทั้งหมดในทวีปแอฟริกา และผลผลิตงาต่อปีไม่น้อยกว่า 350,000 ตัน คิดเป็น 12% ของผลผลิตทั้งหมดของโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พื้นที่ปลูกงาของประเทศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลผลิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
2. พื้นที่ปลูกและพันธุ์ไม้
งาดำของเอธิโอเปียส่วนใหญ่ปลูกในภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ (เช่น กอนเดอร์ ฮูเมรา) และภาคตะวันตกเฉียงใต้ (เช่น เวลเลกา) งาดำพันธุ์หลักที่ผลิตในประเทศ ได้แก่ งาดำพันธุ์ฮูเมรา งาดำพันธุ์กอนเดอร์ และเวลเลกา โดยแต่ละพันธุ์จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ตัวอย่างเช่น งาดำพันธุ์ฮูเมราขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นและความหวานที่เป็นเอกลักษณ์ มีปริมาณน้ำมันสูง จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นส่วนผสม ในขณะที่งาดำพันธุ์เวลเลกามีเมล็ดเล็กกว่าแต่มีน้ำมันมากถึง 50-56% จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสกัดน้ำมัน
3. สภาพการปลูกและข้อดี
ประเทศเอธิโอเปียมีภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเกษตร ดินอุดมสมบูรณ์ และแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ จึงมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยมสำหรับการปลูกงา นอกจากนี้ ประเทศนี้ยังมีแรงงานราคาถูกที่สามารถทำกิจกรรมทางการเกษตรต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี ทำให้ต้นทุนการปลูกงาค่อนข้างต่ำ ข้อดีเหล่านี้ทำให้งาของเอธิโอเปียสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ
IV. สถานการณ์การส่งออก
เอธิโอเปียส่งออกงาจำนวนมากไปยังตลาดต่างประเทศ โดยจีนเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่สำคัญแห่งหนึ่ง งาที่ผลิตในประเทศมีคุณภาพสูงและราคาถูก ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากจากประเทศผู้นำเข้า เช่น จีน เนื่องจากความต้องการงาทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าการส่งออกงาของเอธิโอเปียจะเพิ่มขึ้นอีก
โดยสรุปแล้ว เอธิโอเปียมีข้อได้เปรียบและเงื่อนไขที่เป็นเอกลักษณ์ในการปลูกงา และอุตสาหกรรมงาก็มีแนวโน้มการพัฒนาที่กว้าง
เวลาโพสต์ : 10 เม.ย. 2568